บมจ. เทอร์ราไบท์ พลัส (TERA) คณะกรรมการมีมติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล หุ้นละ 0.045 บาทต่อหุ้น กำหนดวัน Record Date วันที่ 23 พฤษภาคม 2567 เป็นของขวัญให้นักลงทุนทุกราย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ถือหุ้น IPO ที่ถือหุ้น IPO เพียงแค่เดือนเดียว ก็ได้รับปันผลกันงามๆ ฟากซีอีโอ “สุรสิทธิ์ คิวประสพศักดิ์” มั่นใจผลงานปีนี้เติบโตต่อเนื่อง เดินหน้ารุกขยายระบบ T.Cloud Gen3: ต่อยอดความสำเร็จจาก T.Cloud Gen1 และ Gen2 มุ่งลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพ สร้างการเติบโตในอนาคตยั่งยืนตามแผน
นายสุรสิทธิ์ คิวประสพศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท เทอร์ราไบท์ พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ TERA ผู้นำธุรกิจ IT Solution Provider เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2567 (สิ้นสุด 31 มีนาคม 2567) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4.58 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 2.85% โดยบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายพิเศษ (ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายแบบครั้งเดียว) ในไตรมาส 1/2567 ที่เกี่ยวกับการเตรียม IPO อยู่ที่ประมาณ 2.89 ล้านบาท ซึ่งหากตัดค่าใช้จ่ายพิเศษนี้ออก บริษัทฯ จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ประมาณ 6.91 ล้านบาท (ซึ่งคิดเป็นการเติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อนประมาณ 55.08%) และมีรายได้รวม 115.60 ล้านบาท
ซึ่งปัจจัยที่ทำให้บริษัทฯ ยังคงรักษาความสามารถในการทำกำไรไว้ได้ในระดับที่ดี เนื่องจากรับรู้รายได้จากงานบริการที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรายได้ประจำสม่ำเสมอ (Recurring Income)
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 2/2567 มีมติอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลจากกำไรสะสมจากงบการเงินเฉพาะกิจการ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 เป็นเงินสดในอัตรา 0.045 บาท/หุ้น เป็นจำนวนเงินจ่ายปันผลรวมไม่เกิน 10.80 ล้านบาท กำหนด Record Date วันที่ 23 พฤษภาคม 2567 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 7 มิถุนายน 2567 โดยใช้เงินสภาพคล่องคงเหลือจากการดำเนินงานตามปกติ เป็นของขวัญให้ผู้ถือหุ้น IPO ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินปันผลหลังการถือหุ้นเพียงแค่เดือนเดียวเท่านั้น
สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2567 บริษัทฯ มุ่งเน้นเรื่องของการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ และรักษาคุณภาพบริการ T.Cloud ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง โดยจะลงทุนระบบ Cloud มูลค่าประมาณ 60 ล้านบาท ภายในไตรมาส 4/2567 เป็นต้นไป รวมถึงจะมีการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องที่มีศักยภาพ เพื่อรองรับการเติบโต ด้วยการลงทุนราว 70 ล้านบาทตั้งแต่ในปี 2568 - 2569 ส่วนเงินที่เหลือจากการระดมทุนในครั้งนี้ ก็จะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของกิจการในช่วงปี 2567-2568 จะช่วยเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้น และผลการดำเนินงานที่เติบโต ทำให้คุณภาพและบริการดีขึ้น เพิ่มจุดขายได้มากขึ้น ตลอดจนจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันอย่างก้าวกระโดด พร้อมกับตั้งเป้ารายได้ใน 3 ปีข้างหน้าเติบโตไม่ต่ำกว่าปีละ 10% ทั้งจากการเติบโตแบบ Organic และ Inorganic โดยวางแผนเพิ่มสัดส่วนรายได้จากการบริการให้มากขึ้น จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนราว 50% ก็จะเพิ่มเป็น 70% ภายในสามปีข้างหน้า
ล่าสุด บริษัทฯ เปิดให้บริการใหม่ “IT Manager as a Service” ซึ่งเป็นการให้บริการ Outsourcing ทำหน้าที่เป็น IT Manager ให้กับบริษัทที่กำลังเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย ทั้งการช่วยจัดทำนโยบาย, Procedures, วางระบบ-ปิดช่องโหว่ด้านต่างๆ ปรับปรุงระบบไอที และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยให้ลูกค้าไปถึงจุดหมายเรื่องระบบ Internal Control (IC) และ Internal Audit (IA) ด้านไอที ที่ได้มาตรฐาน สามารถผ่านเกณฑ์สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนฯ ได้สำเร็จ ซึ่งปัจจุบันได้ Backlog มาแล้ว 2 สัญญา และมีลูกค้ารอจ่อคิวรายถัดๆ ไป ซึ่งนับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สร้างการเติบโตรายได้จากการให้บริการของ TERA ในอนาคต แบบประจำสม่ำเสมออีกด้วย